โบรกเกอร์Forex ที่ดีที่สุด โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ

โบรกเกอร์ Forex ไม่ได้มีหน้าที่แค่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาด Forex ทั่วโลกได้เท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่ในการนำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดแก่นักลงทุนเพื่อให้พวกเขานำมันไปใช้สร้างประโยชน์จากความผันผวนของราคาของคู่สกุลเงินต่างๆ

นอกจากนี้โบรกเกอร์ Forex ยังนำเสนอฟังก์ชันการสร้างกราฟเพื่อการวิเคราะห์ทางเทคนิค แหล่งข้อมูลการศึกษาเพื่อการวิจัยและวิเคราะห์ตลาด และฟังก์ชันการซื้อขายอื่นๆ ที่เกี่ยวกับฟอเร็กซ์ เช่น การคัดลอกการซื้อขายหรือการซื้อขายแบบอัลกอริธึม เป็นต้น

ค้นพบ 8 สุดยอดโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือที่สุดในปี 2567 สำหรับนักลงทุนในประเทศไทย ที่มาพร้อมกับตัวเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและประสบการณ์การเทรดที่ดีกว่า ให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในโลกของโบรกเกอร์ออนไลน์!

การจัดอันดับโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดในประเทศไทย

  1. Pepperstone – โบรกเกอร์ Forex ที่น่าสนใจที่สุดโดยภาพรวม
  2. BlackBull Markets – สุดยอดโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ใช้เวลาดำเนินการธุรกรรมน้อยที่สุด
  3. Eightcap – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี
  4. FP Markets – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดระยะสั้น (Scalping)
  5. IC Markets – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีค่าสเปรดต่ำที่สุด
  6. IG Group – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ให้ตัวเลือกการซื้อขายที่มากที่สุด
  7. Plus500 – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้น
  8. HFM – โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับการปรับปรุงในด้าน MetaTrader

1.   Pepperstone – โบรกเกอร์ Forex ที่น่าสนใจที่สุดโดยภาพรวม

ก่อตั้งในปี 2010 เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลีย เรายกให้ Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดโดยรวม เนื่องจากพวกเขาส่งมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีในทุกด้าน

จุดเด่นของ Pepperstone คือ ความเร็วของดำเนินการ แพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลาย และเครื่องมือการซื้อขายชั้นยอดเยี่ยมที่รวมกันเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการตัดสินใจระหว่างการทำการซื้อขายของคุณ

ทาง Pepperstone ใช้ความเร็วของดำเนินการเฉลี่ยต่ำกว่า 100 มิลลิวินาทีสำหรับทั้งคำสั่งซื้อขายแบบ limit และ market ซึ่งความเร็วของ Pepperstone ช่วยลดความล่าช้า (ทั้งในส่วนของเวลาเริ่มต้นและดำเนินการซื้อขาย) และลดการเลื่อนไหลของราคา หรือ slippage (ความต่างระหว่างราคาที่คาดหวังและราคาที่ดำเนินการจริง) จากการซื้อขายขณะนั้น

ลูกค้าของ Pepperstone สามารถซื้อขายได้ด้วยความเร็วดังกล่าวในการเทรดบน MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล หรือจะทำการซื้อขายผ่าน cTrader หรือใช้งานฟีเจอร์การสร้างกราฟที่ทรงพลังของ TradingView ก็ได้เช่นกัน

จากการตรวจสอบของเรา Pepperstone ยังมีครื่องมือการซื้อขายเพิ่มเติม เช่น Smart Trader Tools add-on สำหรับ MT4 และ MT5 ซึ่งประกอบด้วยแอปพลิเคชัน 28 รายการ ที่จะช่วยเสริมความมั่นใจในการซื้อขายของคุณกับ Pepperstone

และการบริการลูกค้าของ Pepperstone ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Account Manager ที่คอยช่วยเหลือเกี่ยวกับการเทรดของคุณตั้งแต่กระบวนการเปิดบัญชีทดลองไปจนกระทั่งทำ การเทรด forex ในสนามจริง

👍 ข้อดี

👎 ข้อเสีย

Pepperstone
ประเภทบัญชี Standard, Razor
สเปรดขั้นต่ำ Standard: 1.0 pips, RAW: 0 pips (ด้วนค่าธรรมเนียม USD 3.50)
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับฟอเร็กซ์ 1:500 (รายย่อย)
เงินฝากขั้นต่ำ $0
แพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader 4, MetaTrader 5, TradingView, cTrader, Pepperstone Trading Platform
การกำกับดูแล ASIC, FCA, BaFin, CySEC, DFSA, CMA, SCB*

 2.   BlackBull Markets – โบรกเกอร์ Forex ที่ใช้ความเร็วในการดำเนินการเร็วที่สุด

BlackBull Markets เป็นโบรกเกอร์ forex ที่น่าเชื่อถือในนิวซีแลนด์ที่โดดเด่นในแง่ความเร็วในการดำเนินการ และโบรกเกอร์ยังมีแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ยอดเยี่ยม ตัวเลือก social/copy trading และ VPS trading ฟรี พร้อมแหล่งข้อมูลการเทรดอย่างครบครัน

จากการที่เราได้ทำการทดสอบจากโบรกเกอร์ชั้นนำกว่า 20 ราย พบว่าการใช้ EAs (Expert Advisors) ต่างๆ บนแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 เราพบว่า BlackBull Markets มีความเร็วในการดำเนินการที่น่าทึ่งโดยใช้เวลา 72 มิลลิวินาทีสำหรับ market orders และ 90 มิลลิวินาทีสำหรับ limit orders ซึ่งถือเป็นความเร็วที่เร็วที่สุดของโบรกเกอร์

 

โบรกเกอร์ ความเร็วสำหรับคำสั่ง Limit (ms) ความเร็วสำหรับคำสั่ง Market (ms)
BlackBull Markets 72 90
Fusion Markets 79 77
Pepperstone 77 100
IC Markets 134 153
FP Markets 225 96
IG 174 141
Eightcap 143 139
XM 148 184
CMC Markets 138 180
ThinkMarkets 161 248
Admiral Markets 132 182

 เพื่อการซื้อขายที่ราบรื่อน BlackBull Markets นำเสนอแพลตฟอร์มการลงทุนชั้นนำ 4 รายการ ได้แก่ MT4 (เหมาะสำหรับการซื้อขาย forex), MT5 (การซื้อขายหุ้น), cTrader (การซื้อขายแบบอัลกอริธึม) และ TradingView (เพื่อการสร้างกราฟที่ทรงพลัง)

สำหรับเงื่อนไขการเทรดแบบ social and copy trading คุณสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มของบุคคลที่สามที่ได้รับความนิยม เช่น ZuluTrade และ Myfxbook รวมถึงแพลตฟอร์ม BlackBull CopyTrader ของโบรกเกอร์ก็ได้เช่นกัน

และให้คุณได้ใช้ VPS trading ฟรีๆ จาก BlackBull VOS ได้ โดยเซิร์ฟเวอร์ VPS ของ BlackBull Markets ตั้งอยู่ใน NY, ลอนดอน และญี่ปุ่น แต่การฝากเงินทุนของลูกค้าที่จะเข้าร่วมได้ต้องมียอดขั้นต่ำอยู่ที่ $2,000 และปริมาณการซื้อขาย 20 ล็อต

👍 ข้อดี

– ใช้ความเร็วของการดำเนินการที่เร็วที่สุด

– มีฟังก์ชัน Social and Copy Trading

– นำเสนอ VPS ฟรี

👎 ข้อเสีย

– กำหนดเงินฝากขั้นต่ำในจำนวนสูงสำหรับบัญชี RAW

– เสียค่าธรรมเนียมการถอนเงินเล็กน้อย และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการไม่ใช้งาน

3.   Eightcap – โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี

โบรกเกอร์ Forexสัญชาติออสเตรเลีย Eightcap ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยพวกเขาเป็นโบรกเกอร์ Forex ที่มีชื่อเสียงในการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีด้วยประเภทการซื้อขายมากถึง 95 รายการ นับว่ามากกว่าโบรกเกอร์คริปโตชั้นนำรายอื่นๆ เช่น XM ที่มีตัวเลือก 58 รายการ และ IC Markets ที่มีมากกว่า 18 รายการ

ในการซื้อขายคริปโตจำนวน 95 รายการตารางด้านบนคุณต้องใช้งานผ่าน MT5 หรือ TradingView ขณะที่อีก 79 รายการคุณสามารถใช้แพลตฟอร์ม MT4 ของโบรกเกอร์ได้

Eightcap Lab ส่งมอบเครื่องมือสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการวิจัยตลาดคริปโต ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายและเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีของผู้ค้า เช่น Eightcap Labs, FlashTrader และปฏิทินเศรษฐกิจจากการใช้เทคโนโลยี AI

ด้วย FlashTrader ของโบรกเกอร์คุณจะสามารถจัดการความเสี่ยงและซื้อขายได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น สิ่งที่ทีมงานของเราชื่นชอบคือ นักลงทุนสามารถตั้งเป้าหมายผลกำไรได้หลายรายการ คำนวณขนาดตำแหน่ง และวางคำสั่ง stops และ limits ได้ในคลิกเดียวผ่านตั๋วซื้อขายของเรา วิธีนี้ทำให้ให้นักลงทุนมีเวลาและอิสระในการเทรดและสามารถมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การซื้อขายได้โดยไม่ต้องคำนวณตำแหน่งด้วยตนเอง

นอกจากนี้เรายังอยากแนะนำ Eightcap ในการซื้อขายแบบอัตโนมัติ เนื่องจากโบรกเกอร์มีการนำเสนอฟังก์ชัน EAs (Expert Advisors) ใน MT4 และ Capitalise.ai สำหรับ code-free automation ให้ได้ใช้งาน

👍 ข้อดี

👎 ข้อเสีย

Eightcap
ประเภทบัญชี Standard, RAW
สเปรดขั้นต่ำ Standard: 1.0 pips,  RAW: 0 pips (ด้วยค่าธรรมเนียม USD 3.50)
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับฟอเร็กซ์ 1:500 (รายย่อย)
เงินฝากขั้นต่ำ $100
แพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader 4, MetaTrader 5, TradingView, Capitalise.ai
การกำกับดูแล FCA, CySEC, ASIC, SCB*

4.    FP Markets – โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดระยะสั้น (Scalping)

นอกจาก FP Markets จะเป็นโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือแล้ว พวกเขายังได้รับตำแหน่งสูงสุดใการเป็นตัวเลือกของโบรกเกอร์สำหรับการเทรดระยะสั้น (Scalping) เนื่องจากความเร็วในการดำเนินการที่รวดเร็วและสเปรดที่แข่งขันได้ สิ่งนี้ทำให้โบรกเกอร์มีข้อได้เปรียบอย่างมากในการเทรดแบบ Scalping นั่นเอง

การวิเคราะห์ของเราเผยให้เห็นว่านักลงทุนในประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากสเปรดที่แข่งขันได้ทั้งในบัญชีแบบ Standard (ไม่มีค่าคอมมิชชั่น) และ RAW (มีค่าคอมมิชชั่น) ของ FP Markets สำหรับคู่สกุลเงินหลักอย่าง EUR/USD, AUD/USD และ GBP/USD ทาง FP Markets จะเสนอสเปรดสำหรับบัญชี RAW อยู่ที่ 0.22 pips ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 0.45 pips อย่างมีนัยสำคัญ

และสำหรับบัญชี Standard FP Markets จะมีสเปรดเฉลี่ยที่ 1.30 pips ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.52 pips นอกจากนี้ การฝากเงินในบัญชีของคุณในสกุลเงิน USD จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ $1 ต่อการเทรดแต่ละรอบ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ $6 ต่อการเทรด

จากการทดสอบของเรา FP Markets ดำเนินการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว สำหรับคำสั่ง market จะใช้เวลา 96ms สิ่งนี้เองที่ทำให้ FP Markets กลายเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการเลือกโบรกเกอร์ของเทรดเดอร์แบบ Scalping ที่ต้องการเข้าและออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว

ข้อดีของ FP Markets

 ข้อเสีย ของ FP Markets

FP Markets
ประเภทบัญชี Standard, RAW
สเปรดขั้นต่ำ Standard: 1.0 pips, RAW: 0 pips (ด้วยค่าธรรมเนียม USD 3.00)
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับฟอเร็กซ์ 1:500 (รายย่อย)
เงินฝากขั้นต่ำ $100
แพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader 4, MetaTrader 5, TradingView, cTrader
การกำกับดูแล ASIC, CySEC, FSA-S*, FSC-M*, FSCA

5.   IC Markets – โบรกเกอร์ Forex ที่มีสเปรดต่ำที่สุด

IC Markets เติบโตอย่างมากนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2007 กลายเป็นโบรกเกอร์ Forexที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามปริมาณการเทรด ด้วยมูลค่าการเทรด 1.64 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน 2024 จากลูกค้าที่ใช้งานอยู่ 200,000 รายทั่วโลก ด้วยการเข้าถึงสภาพคล่องมากกว่า 25 รายทั่วโลก IC Markets โดดเด่นด้วยการเสนอค่าสเปรดที่ต่ำที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราทดสอบ

บัญชี Standard (ไม่มีค่าคอมมิชชั่น) น่าประทับใจเป็นพิเศษ โดยมีค่าสเปรดต่ำที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ชั้นนำ 15 รายที่เราทดสอบ โดยมีค่าสเปรดเฉลี่ยที่ 1.03 pips สำหรับคู่สกุลเงินหลักของ USD ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.52 pips อย่างมาก

สำหรับบัญชี RAW IC Markets มีค่าสเปรดเฉลี่ยที่ 0.32 pips สำหรับคู่สกุลเงินหลักที่สนับสนุนโดย USD หกรายการ ซึ่งอยู่อันดับที่ 3 โดยรวม เป็นรองเพียง Fusion Markets (0.22 pips) และ City Index (0.25 pips) การรวมกันของค่าสเปรดต่ำในทั้งสองประเภทบัญชีทำให้มั่นใจได้ว่า IC Markets มีต้นทุนการเทรดที่ต่ำโดยรวม

IC Markets ยังเสนอการเทรด MT4 ที่เพิ่มประสิทธิภาพผ่านชุดเครื่องมือ MT4 Advanced Trading Tools นอกเหนือจากชุดเครื่องมือนี้ ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษา (EAs) ลูกค้ายังสามารถเข้าถึง MT5, cTrader และ TradingView พร้อมด้วยเครื่องมือ Social Trading และอัลกอริทึมหลากหลายจาก ZuluTrade ถึง cTrader Automate

ข้อดี

ข้อเสีย

 

IC Markets
ประเภทบัญชี Standard, RAW Spread
สเปรดขั้นต่ำ Standard: 0.8 pips, RAW: 0 pips (ด้วยค่าธรรมเนียม USD 3.00)
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับฟอเร็กซ์ 1:500 (รายย่อย)
เงินฝากขั้นต่ำ $200
แพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader 4, MetaTrader 5, TradingView
การกำกับดูแล ASIC, CySEC, FSA-S*,  FSC-M*, FSCA

6.   IG Group – โบรกเกอร์ที่มีผลิตภัณฑ์การเทรดหลากหลายที่สุด

โบรเกอร์ Forex ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง IG Group ก่อตั้งในปี 1974 โดยพวกเขาได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในหลายประเทศ จากวิเคราะห์ของเราเผยให้เห็นว่า IG มี CFD Trading Tools ที่ครอบคลุมและนำเสนอแพลตฟอร์มการเทรด CFD ที่มีคุณภาพสูง

IG Markets โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์การเงินมากกว่า 13,000 รายการ นับเป็นจำนวนมากที่สุดที่เราเคยเห็น สิ่งนี่ทำให้ IG น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับนักเทรดจากประเทศไทยที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และอนุพันธ์ที่มีความซับซ้อนเช่น ETFs และออปชัน

IG Group นำเสนอแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึง MT4, ProRealTime, L2 Dealer และแพลตฟอร์มเฉพาะของโบรกเกอร์อย่าง IG L2 Dealer และ ProRealTime

ความโดดเด่นที่แท้จริงของแฟลตฟอร์มการเทรดคือ การนำเสนอไทม์เฟลม 22 รายการ รวมทั้ง drawing tools 20 รายการและกราฟอีก 5 ประเภท รวมทั้งคำสั่ง guaranteed stop loss ที่ช่วยจัดการความเสี่ยงให้นักเทรดได้เป็นอย่างดี

ข้อดี:

ข้อเสีย

IG Group
ประเภทบัญชี Standard, DMA (เฉพาะ Forex)
สเปรดขั้นต่ำ Standard: 0.6 pips, RAW: 0 pips (ด้วยค่าธรรมเนียม USD 6.00)
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับฟอเร็กซ์ 1:500 (รายย่อย)
เงินฝากขั้นต่ำ $0
แพลตฟอร์มการซื้อขาย IG Trading Platform, ProRealTime, MetaTrader 4, L2 Dealer
การกำกับดูแล FCA, CySEC, DFSA, CMNV, KNF, FSC-BZ*

7.   Plus500 – โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น

Plus500 เป็นโบรกเกอร์ Forex จากประเทศอิสราเอล ก่อตั้งขึ้นปี 2008 โดดเด่นในฐานะโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ดีที่สุดสำหรับนักเทรดที่พึ่งเริ่มต้น

โดยมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.9 pips สำหรับคู่สกุลเงิน EUR/USD สำหรับผู้เริ่มต้น การไม่มีต้นทุนค่าคอมมิชชั่น และแอปการซื้อขายที่ใช้งานง่าย ใช้ได้ทั้งบนเดสก์ท็อปในรูปแบบ WebTrader หรือในแอปมือถือ

การทดสอบของเราพบว่าแพลตฟอร์ม Plus500 ช่วยให้การปรับแต่ง จัดเรียงกราฟ และมันรวมเข้ากับ WebTrader ได้อย่างลงตัว และมันยังมีคุณสมบัติการจัดการความเสี่ยงด้วยคำสั่ง stop loss ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

Plus500 ยังมีผลิตภัณฑ์ CFD หลากหลายกว่า 2,500 รายการในสินทรัพย์หลายประเภท รวมถึงฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต ออปชัน และ ETFs ความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ CFD นี้ช่วยให้คุณสามารถกระจายพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 ข้อดี

  ข้อเสีย

Plus500
ประเภทบัญชี Standard
สเปรดขั้นต่ำ Standard: 1.0 pips
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับฟอเร็กซ์ 1:300 (รายย่อย)
เงินฝากขั้นต่ำ $100
แพลตฟอร์มการซื้อขาย Plus500
การกำกับดูแล ASIC, FCA, CySEC, FMA, MAS,  DFSA, EFSRA, FSA-S*, FSCA

8.   HFM – โบรกเกอร์ Forex ที่เพิ่มประสิทธิภาพ MetaTrader

HF Markets (HFM) ยังเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำที่ให้ประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader ที่ปรับปรุงด้วย Premium Trader Tools ที่พัฒนาโดย FX Blue Labs ร่วมกับสัญญาณผ่านปลั๊กอิน Autochartist ที่โดดเด่น

ทาง HFM นำเสนอทั้งบัญชี Premium ที่มีการกระจายเพียงอย่างเดียว และบัญชี Zero ที่มีการเรียกเก็บค่านายหน้า โดยนักเทรดรายในบัญชีบัญชี Zero คุณจะต้องจ่าย $6 ต่อการเทรดรอบของหนึ่งล็อต และคุณจะได้รับประโยชน์จากการกระจายเฉลี่ยต่ำเพียง 0.1 พิปสำหรับ EUR/USD ซึ่งให้คุณคุ้มค่าอย่างยอดเยี่ยม

ในขณะที่ HF Markets นำเสนอคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ระดับประมาณ 38 คู่ เราพบว่านักเทรดจากประเทศไทยสามารถเข้าถึงหุ้นที่เป็นทรัพย์สินจริงได้เกือบ 2000 รายการ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นๆ

HF Markets ให้คุณเทรดได้ทั้งบนแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 รวมถึงเข้าถึง Premium Trader Tools และ Signals ผ่าน the Autochartist plugin และเรายังพบว่าแอปพลิเคชันมือถือของ HF Markets นั้นยอดเยี่ยมมาก ในแง่การวาดกราฟขั้นสูง การจัดการบัญชี และอินเตอร์เฟซที่ปรับแต่งได้

ข้อดี

ข้อเสีย

HFM
ประเภทบัญชี Premium, Zero, Cent, VIP
สเปรดขั้นต่ำ Cent, Premium: 1.2 pips,  Zero: 0.6 pips (ด้วยค่าธรรมเนียม USD 3.00 commission)
เลเวอเรจสูงสุดสำหรับฟอเร็กซ์ 1:2000 (รายย่อย)
เงินฝากขั้นต่ำ $0
แพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader 4, MetaTrader 5, HFM App
การกำกับดูแล FCA, CySEC, DFSA ,FSCA,CMA, FSA-S*

 คำถามที่พบบ่อย

โบรกเกอร์ Forex ใดเหมาะสำหรับประเทศไทย

กรมการตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SEC) เป็นหน่วยงานควบคุมและกำกับการดำเนินงานของตลาดทางการเงินในประเทศ ดังนั้นคุณควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมและกำกับดูแลโดย SEC แต่เนื่องจากมีโบรกเกอร์ไม่มากที่ได้รับการควบคุมนี้ คุณสามารถพิจารณาเลือกโบรกเกอร์จากต่างประเทศที่ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติแทน

1. โบรกเกอร์ Forex

ต้องได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานทางการเงินที่ควบคุมองค์กรทางการเงินสำคัญ เช่น

2. โบรกเกอร์ Forex ต้องเคารพกฎระเบียบอย่างเข้มงวด รักษาความโปร่งใส แยกเงินลูกค้าออกจากบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ได้รับความเชื่อถือและเงินของคุณปลอดภัย

 

About the Author: The author of this article is Justin Grossbard

Exit mobile version