โบรกเกอร์ forex ที่น่าเชื่อถือ สำหรับประเทศไทย – 10 อันดับแรก ในปี 2025

Reason to trust

Strict editorial policy that focuses on accuracy, relevance, and impartiality

Created by industry experts and meticulously reviewed

The highest standards in reporting and publishing

How Our News is Made

Strict editorial policy that focuses on accuracy, relevance, and impartiality

Ad discliamer

Morbi pretium leo et nisl aliquam mollis. Quisque arcu lorem, ultricies quis pellentesque nec, ullamcorper eu odio.

การเทรด Forex CFDs กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่เทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาด โดยใน CFD (Contract for Difference) คุณจะทำการเก็งกำไรเกี่ยวกับทิศทางที่คุณคิดว่าตลาดจะเคลื่อนที่ ซึ่งทำให้สามารถทำกำไรได้จากการเคลื่อนไหวของตลาดในทิศทางใดก็ได้

ในการเริ่มต้นการเทรด Forex CFD คุณต้องหานายหน้าก่อน โดยในที่นี้ ฉันได้รวบรวมรายชื่อ 10 โบรกเกอร์ Forex ที่เชื่อถือได้สำหรับเทรดเดอร์ที่อยู่ในประเทศไทย รายชื่อนี้จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับกลยุทธ์ของคุณในปี 2025

10 อันดับ โบรกเกอร์ forex ที่มีความน่าเชื่อถือที่สุด สำหรับเทรดเดอร์ไทย

1. Pepperstone: โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดในภาพรวม สำหรับประเทศไทย
2. Eightcap: ตัวเลือกคริปโตเคอร์เรนซีที่มากที่สุดในตลาด
3. Exness: โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในแง่เลเวอรจ
4. XM: ที่สุดของโบรกเกอร์ ที่ไม่มีการเสนอราคาที่ปรับปรุงใหม่
5. FBS: โบรกเกอร์อันยอดเยี่ยม ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอนเงินในหลากหลายวิธี
6. IQ Option: ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าชั้นยอด ในหลากหลายภาษา
7. IC Markets: ตัวเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดีที่สุด
8. Tickmill: ข้อเสนอตลาดการเงินหลากหลายประเภท
9. IUX market: พอร์ทัลการศึกษาและเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม
10. OANDA: ตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่หัดเทรด

1. Pepperstone: โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดในภาพรวม สำหรับประเทศไทย

ภาพรวมของโบรกเกอร์

หากจะพูดถึงโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าเชื่อถือของเทรดเดอร์ชาวไทย ผมคิดว่า Pepperstone เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด จากการทดสอบของผมโบรกเกอร์นี้ได้คะแนนสูงสุดจากข้อเสนอสเปรดต่ำ ในคู่เงินที่มีการซื้อขายบ่อยที่สุด

ถึงแม้โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะเผยแพร่ข้อมูลสเปรดเฉลี่ยบนเว็บไซต์หลักอยู่แล้ว ซึ่งข้อมูลนี้ก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่ผมยังต้องการทดสอบสเปรดนี้ด้วยตัวเอง ดังนั้น Ross Collins นักวิเคราะห์จาก CompareForexBrokers ซึ่งเพื่อนร่วมงานของผม ได้ร่วมทดสอบสเปรดและพบว่า สเปรดของบัญชร Razor (Raw) ของโบรกเกอร์นี้ และได้ข้อสรุปดังนี้

[Pepperstone spread testing table, Razor account] = [ตารางการทดสอบสเปรดของ Pepperstone, [บัญชี Razor]

จากที่คุณเห็น ผลการทดสอบของ Ross แสดงให้เห็นว่า สเปรดในคู่สกุลเงินหลายคู่มีค่าที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเทรดของคุณได้อย่างมาก

ผมยังพบคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Pepperstone ที่เหนือกว่าคู่แข่งที่ดีที่สุดรายอื่น เช่น คู่เงินจำนวน 93 คู่ ซึ่งมากกว่าจำนวนคู่เงินที่โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือเกือบทั้งหมดในตลาดนำเสนอ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกเทรดได้ในคู่เงินหลัก, คู่เงินรอง และคู่เงินพิเศษ จึงทำให้คุณมีความยืดหยุ่นในการพัฒนากลยุทธ์ที่หลากหลาย

อีกคุณสมบัติที่ทำให้ Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดี คือ การรองรับฟังก์ชันคัดลอกการเทรด (Copy Trading) เนื่องจากฟังก์ชันนี้ช่วยให้การเทรดฟอเร็กซ์เป็นไปโดยง่ายและประหยัดเวลามากขึ้น โดยคุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือคัดลอกการเทรดที่ดีที่สุดสามตัว ได้แก่ Duplitrade, cTrader Copy และ Copy Trading by Pepperstone ในการเทรดฟอเร็กซ์

สุดท้าย Pepperstone ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งมอบเงื่อนไขการเทรดที่ยอดเยี่ยม ทำให้โบรกเกอร์นี้อยู่ในอันดับที่สามในการทดสอบความเร็วในการดำเนินการ โดยมีความเร็วของ Market Order ที่ 100 มิลลิวินาที และ Limit Orders ที่ 72 มิลลิวินาที

จากประสบการณ์ของผม ความเร็วที่ 100 มิลลิวินาที หรือต่ำกว่านั้นก็เพียงพอที่จะป้องกันการเกิด slippage (การเบี่ยงเบนของราคา) ได้ ทำมั่นใจได้ว่าคำสั่งการซื้อขายของคุณจะได้รับการดำเนินการตามราคาที่คุณร้องขออย่างแท้จริง

ความเร็วในการดำเนินการนี้เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มการเทรดที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงทั้งหลายที่รองรับโดย Pepperstone ไม่ว่าจะเป็น MT4, MT5, cTrader, TradingView และ ซอฟต์แวร์การเทรด ของ Pepperstone เอง

ข้อดีของ Pepperstone

• สเปรดที่คงที่และต่ำ
• ค่าคอมมิชชันต่ำ
• ความเร็วในการดำเนินการที่สูงสุด
• รองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่ดีที่สุดหลายรายการ

ข้อเสียของ Pepperstone

• ตัวเลือกคริปโตเคอร์เรนซีมีจำนวนน้อยกว่าโบรกเกอร์คู่แข่ง
• ไม่สามารถทำการซื้อขายหุ้นบน MT4 ได้

2. Eightcap: ตัวเลือกคริปโตเคอร์เรนซีที่มากที่สุดในตลาด

ภาพรวมของโบรกเกอร์

สำหรับผม Eightcap เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจาก โบรกเกอร์นี้อนุญาตให้คุณเข้าถึง crypto CFDs ได้มากถึง 95 รายการ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่คุณจะพบในตลาดฟอเร็กซ์ไทย ผ่านการซื้อขายบน MetaTrader 5 และ TradingView

[Crypto table comparison][table id=3294 /]

จากตาราง คุณจะเห็นว่า Eightcap มีตัวเลือก crypto CFDs มากกว่าคู่แข่งเกือบทั้งหมด ยกเว้น eToro แต่การใช้งาน eToro นั้นยังสามารถใช้งานได้สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

สำหรับ MetaTrader 4 คุณจะสามารถเลือกเทรด crypto CFDs ได้ทั้งหมด 79 คู่ ซึ่งน้อยกว่า MetaTrader 5 แต่ยังคงถือว่าเป็นจำนวนที่มากที่สุดในอุตสาหกรรม และจากตาราง คุณจะเห็นว่า Eightcap ยังคงมีจำนวนคริปโตที่อยู่เหนือค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างมาก

แต่หากนับแพลตฟอร์มการเทรดทั้งหมดที่โบรกเกอร์ Eightcap รองรับ ไม่ว่าจะเป็น MT4, MT5 และ TradingView ผมก็ยังมองว่าโบรกเกอร์ Forex ที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้มีข้อได้เปรียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดอื่นๆ อยู่ไม่น้อย

นอกจากนี้ ผมพบว่า TradingView เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการวิเคราะห์ขั้นสูง คุณจะมีเครื่องมือเทคนิคกว่า 110 ตัว รวมถึงเครื่องมือเช่น Pivot Points และ Ichimoku และเครื่องมือ Depth-of-Markets ที่จะช่วยให้คุณเห็นคำสั่งเปิดปัจจุบันของโบรกเกอร์ได้ในทันที

สำหรับการเทรดอัตโนมัติ ผมว่า MT4 และ MT5 ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุด โดยทั้งสองแพลตฟอร์มนี้รองรับ Expert Advisors (EAs) ซึ่งเป็นบอทการซื้อขายอัตโนมัติที่สามารถทำการซื้อขายให้คุณ หรือแนะนำไอเดียการซื้อขายที่มีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเขียน Expert Advisor ด้วยตัวเอง หรือจะเลือกใช้ EA ที่มีอยู่ใน MetaTrader Marketplace ก็ได้

หากคุณไม่มีประสบการณ์ในการเขียนโค้ด คุณสามารถเลือก EA ที่สร้างเสร็จแล้ว หรือใช้ Capitalise.ai ซึ่งตัวเลือกของการซื้อขายที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสนับสนุนโดย Capitalise.ai โดยวิธีใช้ คุณเพียงแค่บอกคำแนะนำในการซื้อขายให้กับระบบ และมันจะทำการสร้างบอทการซื้อขายให้คุณ โดยไม่ต้องใช้การเขียนโค้ด

นอกเหนือจาก cryptos แล้ว Eightcap ยังมี เครื่องมือการซื้อขายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น คู่สกุลเงิน 56 คู่, CFD หุ้น 586 รายการ , ดัชนี 16 ตัว และสินค้าโภคภัณฑ์ 8 รายการ จึงกล่าวได้ว่า Eightcap เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีความหลากหลายของตลาดการเงินในระดับแนวหน้า

ข้อดี Eightcap

• ตัวเลือกคริปโตเคอเรนซีที่หลากหลาย
• รองรับแพลตฟอร์มการเทรด TradingView ที่ยอดเยี่ยม
• ให้บริการการเทรดอัตโนมัติที่แข็งแกร่งบน MT4 และ MT5
• มีสเปรดที่แข่งขันได้

ข้อเสียของ Eightcap

• เงินฝากขั้นต่ำค่อนข้างสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโบรกเกอร์ Forex ที่มีในตลาด
• ไม่มีฟีเจอร์คัดลอกการเทรดโดยเฉพาะ

3. Exness: โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในแง่เลเวอรจ

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับ Exness คือ ขีดจำกัดเลเวอเรจสูงที่โบรกเกอร์นี้เสนอให้ ในตลาดการเงินที่มีการซื้อขายในปริมาณสูง อาจมีเลเวอเรจสามารถถึง 1:2000 และในบางกรณีคุณอาจมีสิทธิ์ได้รับเลเวอเรจไม่จำกัด

แม้ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการซื้อขาย แต่การใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวังและมีการศึกษาตลาดอย่างละเอียด พร้อมทั้งรู้ขีดความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเอง จะเป็นเกราะป้องกันให้คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างมีประโยชน์

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Exness คือ โบรกเกอร์ Forex ที่มีความน่าเชื่อถือแห่งนี้ ให้ข้อเสนอประเภทบัญชีที่หลากหลาย จากที่โบรกเกอร์ Forex ที่ให้บริการในไทยส่วนใหญ่จะเสนอบัญชี Raw หรือ Standard และบางโบรกเกอร์อาจมีเพียงตัวเลือกเดียว แต่ Exness มีตัวเลือกบัญชีการซื้อขายถึงสี่ประเภท สร้างความยืดหยุ่นสูงสุดในการเลือกบัญชีที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และการซื้อขายของคุณ

บัญชีการซื้อขายที่ Exness มีให้บริการ ประกอบไปด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น บัญชี Standard ซึ่งให้ค่าสเปรดต่ำ โดยเริ่มต้นที่ 0.3 pips ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 1.53 pips ดังนั้น คุณอาจพบว่าการซื้อขายฟอเร็กซ์ผ่าน Exness ช่วยให้ต้นทุนการเทรดของคุณต่ำลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ Forex ที่ดีและมีความน่าเชื่อถือแห่งนี้ ยังมีบัญชีการซื้อขายประเภทหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผมคือ บัญชี Standard Cent ซึ่งคุณสามารทำการซื้อฟอเร็กซ์ได้ในหน่วยเซ็นต์แทนที่จะเป็นดอลลาร์

เช่น ถ้าคุณต้องการทำการซื้อขายในมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ในบัญชีปกติ มันจะมีมูลค่า 100,000 เซ็นต์ หรือ 1,000 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนบัญชี Standard Cent จึงเห็นได้ว่า การซื้อขายในบัญชีนี้ทำให้ต้นทุนต่ำลงและเสี่ยงน้อยลง ถึงแม้ว่าผลตอบแทนที่คุณจะได้รับจะน้อยลง แต่ก็เป็นวิธีที่ดีในการจัดการความเสี่ยงและปกป้องเงินทุนของคุณ

สำหรับ บัญชี Raw Spread สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips และมีค่าคอมมิชชันที่ 7.00 ดอลลาร์ ต่อการซื้อขายในแต่ละรอบ แต่หากคุณต้องการลดค่าคอมมิชชัน คุณสามารถเลือกใช้ บัญชี Zero ซึ่งค่าคอมมิชชันจะเป็นแบบปรับเปลี่ยนได้ และอาจต่ำสุดที่ 0.40 ดอลลาร์ โดยบัญชีนี้มีข้อดีคือมีสเปรด 0.0 pips ในการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีการเทรดมากที่สุด 30 ตัวใน 95% ของเวลาการเทรด ดังนั้น ถ้าคุณเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่ดี คุณอาจจะสามารถประหยัดได้มาก

สุดท้ายคือ บัญชี Exness Pro ซึ่งแตกต่างออกไป โดยจุดเด่น คือ การดำเนินการทันที (Instant Execution) ในขณะที่บัญชีอื่นๆ ใช้การดำเนินการตามตลาด (Market Execution) หมายความว่าคุณอาจได้รับ requote หากโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ของคุณไม่สามารถเติมคำสั่งการซื้อขายของคุณได้ตามราคาที่คุณร้องขอ

และบัญชี Exness Pro ยังมีสเปรดที่น่าสนใจ ซึ่งเริ่มต้นที่ 0.1 pips และไม่มีค่าคอมมิชชัน ทำให้คุณได้สเปรดที่ใกล้เคียงกับบัญชี Raw โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันต่อการเทรด

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อย่าง Exness ยังมีข้อดีอื่น เช่น สเปรดที่ต่ำ ตัวเลือกบัญชีการซื้อขายทั้งแบบมืออาชีพและทั่วไป รวมถึงบริการ VPS ฟรี เมื่อคุณทำการเทรดผ่าน MetaTrader 4 หรือ 5

ข้อดีของ Exness

• ข้อเสนอเลเวอเรจที่โดดเด่น
• บัญชีการซื้อขายที่หลากหลาย เหมาะสำหรับมืออาชีพและเทรดเดอร์ทั่วไป
• บริการ VPS ฟรีสำหรับ MT4 และ MT5
• ให้บริการเซ็นต์ล็อตขนาดเล็กสำหรับบัญชีบางประเภท

ข้อเสียของ Exness

• เลเวอเรจสูง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการซื้อขาย
• เลเวอเรจไม่จำกัด ในบางกรณีเท่านั้น
• อัตราค่าคอมมิชชันในบัญชี Standard ไม่ได้ดีมากนัก

4. XM: ที่สุดของโบรกเกอร์ ที่ไม่มีการเสนอราคาที่ปรับปรุงใหม่

ภาพรวมของโบรกเกอร์

XM มักจะออกตัวว่าพวกเขาโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่มีการรีควอต (requotes) หรือการปฏิเสธคำสั่ง ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับการเทรดที่เชื่อถือได้ โดยคำสั่งการซื้อขายของคุณจะได้รับการดำเนินการตามที่วางไว้เสมอ และคุณจะไม่ถูกปฏิเสธหรือได้รับการเสนอราคาใหม่

แน่นอนว่านี่เป็นนี่เป็นสิ่งที่ดีมาก โบรกเกอร์ Forex ที่มีทั้งความน่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำแห่งนี้สามารถจัดการการซื้อขายได้อย่างมืออาชีพ เนื่องจากเพราะพวกเขาใช้การดำเนินการตามราคาตลาด (market execution) ซึ่งใช้เวลาการดำเนินการที่รวดเร็วมาก

การอาศัยกลไกการเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้ให้บริการสภาพคล่อง (liquidity providers) ทำให้คำสั่งการซื้อขายได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็วและไม่ถูกกระทบจาก slippage มากนัก ซึ่งหมายความว่าลูกค้าของ XM ราคาตามที่คุณร้องขอในตอนที่วางคำสั่งการซื้อขายนั่นเอง

นอกจากนี้ ผมว่าบัญชีที่มีขนาดไมโครล็อต อย่างเช่น XM Micro ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโบรกเกอร์แห่งนี้ รวมไปถึงสเปรดเริ่มต้นจาก 0.6 pips ในบัญชี XM Ultra Low ซึ่งหมายความว่า คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นการเทรดด้วยขนาดล็อตเต็ม แต่คุณสามารถจัดการความเสี่ยงที่มีโดยการเปิดตำแหน่งขนาดเล็กได้

แต่ประเด็นที่เทรดเดอร์หลายคนอาจไม่ชอบ คือ XM ไม่มีบัญชี Raw spread ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ได้รับสเปรดที่ดีที่สุดในตลาด แต่ผมว่าอยู่ในระดับที่รับได้ หากเทียบกับการที่คุณจะไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันอื่นในการซื้อขายฟอเร็กซ์

และสำหรับแพลตฟอร์มการเทรดที่มีให้บริการบนโบรกเกอร Forex ที่ยอดเยี่ยมนี้ ได้แก่ MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 ซึ่งทั้งสองเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ขอให้จำไว้ว่าคุณจะไม่สามารถเทรดหุ้นจำนวน 1,261 ตัว ได้บน MetaTrader 4 แต่คุณยังสามารถเลือกทำการซื้อขายฟอเร็กซ์ 55 คู่, สินค้าโภคภัณฑ์ 15 รายการ และ ดัชนี14 ตัว ได้จากแพลตฟอร์มการเทรดทั้งสองแบบ

ข้อดีของ XM

• ไม่มีการ requotes หรือการปฏิเสธคำสั่ง
• สเปรดของบัญชี Standard อยู่ในระดับที่น่าประทับใจ
• สามารถเทรดด้วยไมโครล็อตได้

ข้อเสียของ XM

• ไม่มีบัญชี Raw
• เงื่อนไขการซื้อขายในบัญชี Standard ยังสู้โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์บางรายไม่ได้

5. FBS: โบรกเกอร์อันยอดเยี่ยม ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอนเงินในหลากหลายวิธี

ภาพรวมของโบรกเกอร์ FBS

FBS เสนอคู่สกุลเงินทั้งหมด 72 คู่ ทำให้ FBS เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าเชื่อถือและที่ดีสำหรับตัวเลือกตลาดการเงินที่หลากหลาย โดยเฉพาะในการเทรด และนอกจากสกุลเงินแล้ว คุณยังสามารถเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ถึง 11 รายการ, ดัชนี 11 ตัว, หุ้น 474 ตัว, และ cryptocurrencies อีก 5 ตัว ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่าจำนวน cryptocurrencies 5 ตัว อาจจะดูไม่น่าสนใจนัก แต่ก็ครอบคลุมเหรียญที่มีการเทรดบ่อยที่สุด เช่น Bitcoin และ Ethereum โดยไม่พยายามเจาะลึกไปใน altcoins ที่ซับซ้อนและมีความผันผวนสูง

คุณสามารถทำการซื้อขายฟอเร็กซ์ผ่านแพลตฟอร์มการเทรดที่น่าเชื่อถือ เช่น MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการเทรดที่ดีที่สุด โดยสามารถใช้งานได้ทั้งบน มือถือ ผ่าน MetaTrader หรือ FBS Mobile App ซึ่งเป็นแอพเทรดที่น่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ เพื่อใช้งานฟังก์ชันการเทรดที่สะดวกสบายบนมือถือของคุณ

ในแง่ประเภทบัญชีการเทรด FBS มีบัญชีประเภทเดียว ซึ่งมีการตั้งราคามาตรฐาน (Standard pricing) นั่นหมายความว่า คุณจะไม่ได้รับสเปรดที่ดีที่สุดในตลาด แต่คุณก็ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันเช่นกัน แม้ว่าบัญชี Raw มักจะคุ้มค่ากว่าในการเทรดในปริมาณมาก แต่คุณอาจจะพบว่าโครงสร้างราคาที่เรียบง่ายของบัญชี FBS กลับน่าสนใจกว่า

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ FBS คือ ความง่ายในการเข้าถึงสำหรับผู้เริ่มต้น โดยการฝากขั้นต่ำเพียง $5 ทำให้คุณสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือนี้น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเข้าสู่ตลาด

หลังจากที่คุณเปิดบัญชีแล้ว คุณจะสามารถขอรับความช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุนลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ เพื่อความมั่นใจในด้านการให้บริการและความน่าเชื่อถือ คุณควรทราบว่าโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ยอดเยี่ยมนี้ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำอย่าง Financial Service Commission (FSC) ของเบลีซ

นอกจากนี้ คุณสามารถฝากถอนเงินได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น SticPay และ Thai QR และสำหรับการถอนเงินสามารถใช้ SticPay, Visa, Mastercard และ Maestro ที่คุณสามารถใช้เพื่อโอนเงินไปยัง 9 ธนาคารในไทย ได้โดยตรง

ข้อดีของ FBS

• มีตัวเลือกตลาดการเงินที่หลากหลาย
• ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมง
• ฝากขั้นต่ำต่ำเพียง $5

ข้อเสียของ FBS

• ไม่มีบัญชี Raw spread ในการเทรด
• สเปรดขั้นต่ำมีจำนวนที่สูง

6. IQ Option: ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าชั้นยอด ในหลากหลายภาษา

ภาพรวมของโบรกเกอร์ IQ Option

IQ Option ให้เสนอการเทรดฟอเร็กซ์ทั้งหมด 32 คู่ ผ่านแพลตฟอร์มการเทรดหนึ่งรายการ และมีบัญชีการเทรดเพียงหนึ่งประเภทเท่านั้น แม้ IQ Option จะเป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือของเทรดเดอร์ไทย แต่ก็ยังมีโบรกเกอร์ Forex ที่น่าใช้งานอีกหลายแห่งที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีกว่า

สำหรับตลาด Forex จะครอบคลุม คู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินแปลกใหม่ ดังนั้น การให้บริการเทรดฟอเร็กซ์ของ IQ Option ก็ยังถือว่าเพียงพอสำหรับหลายๆ คน นอกจากนี้ โบรกเกอร์นี้เปิดให้คุณเทรดคริปโตได้ถึง 26 ตัว และหุ้นอีก 181 ตัว

บัญชี IQ Option Account คือ ประเภทบัญชีเดียวที่มีให้บริการในการเทรดของโบรกเกอร์นี้ ซึ่งเป็นบัญชีมาตรฐานที่มีการตั้งราคาที่เรียบง่าย ทำให้เทรดเดอร์หลายคนชื่นชอบ แม้ว่าสเปรดจะไม่ค่อยต่ำเท่ากับบัญชี Raw ก็ตาม

การสนับสนุนลูกค้า คือ สิ่งที่สำคัญมากสำหรับผมในฐานะเทรดเดอร์ ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่ต้องใช้มันตลอดเวลา แต่การรู้ว่ามีการสนับสนุนเมื่อจำเป็นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง IQ Option เป็นโบรกเกอร์ที่โดดเด่นในเรื่องนี้

ผมพบว่า ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของโบรกเกอร์นี้รองรับการให้บริการใน 12 ภาษา รวมถึง ภาษาไทย และให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งดีกว่าอีกโบรกเกอร์หลายๆ เจ้าที่ให้การสนับสนุนเฉพาะเวลาที่ตลาดเปิด

นอกจากนี้ IQ Option ยังให้ข้อเสนอการฝากเงินขั้นต่ำในจำนวนน้อย และสามารถเทรดด้วยไมโครล็อตได้ ทำให้ IQ Option กลายเป็นโบรกเกอร์ที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ไทยที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดฟอเร็กซ์อย่างปฏิเสธไม่ได้

ข้อดีของ IQ Option

• ให้การสนับสนุนลูกค้าใน 12 ภาษา รวมถึงภาษาไทย
• ข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำเพียง $10
• สามารถเทรดแบบไมโครล็อตได้

ข้อเสียของ IQ Option

• มีแพลตฟอร์มการเทรดเพียงหนึ่งรายการ
• สเปรดยังไม่ได้ต่ำที่สุด

7. IC Markets: ตัวเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ดีที่สุด

Broker Overview

IC Markets นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดชั้นนำหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader, และ TradingView

นอกจากความหลากหลายของแพลตฟอร์มการเทรดที่น่าเชื่อถือแล้ว คุณจะได้รับประโยชน์จากสเปรดที่ต่ำของ IC Markets จากการเทรดฟอเร็กซ์บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ โดยทั่วไปแล้วคุณจะได้รับสเปรดเฉลี่ย 0.32 pips ในการเทรด 6 คู่เงินหลัก ตลอดทั้งวัน และ EUR/USD ก็ถือเป็นคู่ที่มีสเปรดที่ดีที่สุด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.19 pips

นอกจาก EUR/USD แล้ว ยังมีตลาดการเงินอื่นๆ ที่สามารถเทรด รวมถึงการเทรดฟอเร็กซ์ 61 คู่ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น่าประทับใจสำหรับโบรกเกอร์ Forex ที่ให้บริการในประเทศไทย และ CFD หุ้นกว่า 2,100 ตัว อย่างไรก็ตาม คุณควรทราบว่า คุณจะไม่สามารถเข้าถึงการเทรดหุ้นเหล่านี้ หากคุณเลือกเทรดด้วย MetaTrader 4

แพลตฟอร์มการเทรดที่ผมชอบที่สุดสำหรับ IC Markets คือ MetaTrader 5 ข้อดีหลักของแพลตฟอร์มนี้คือ เครื่องมือ Depth-of-Markets ซึ่งช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบ Order Book ปัจจุบันเพื่อค้นหาระดับการซื้อและขายได้ นอกจากนี้โบรกเกอร์ forex ที่น่าสนใจแห่งนี้ ยังมีตัวชี้วัด 38 รายการ และเครื่องมือวาดกราฟอีก 20 รายการไว้คอยบริการผ่าน MT5 อีกด้วย

สำหรับบัญชีการเทรด โบรกเกอร์นี้มี Standard Account ที่ถือว่าดีที่สุดตัวหนึ่งที่ผมเคยเจอ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การใช้ Standard Account ทำให้คุณไม่ต้องจ่ายคอมมิชชัน แต่สเปรดที่ได้รับก็อาจสูงกว่าที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตาม IC Markets ทำงานอย่างหนักเพื่อส่งมอบประสบการณ์การเทรดที่ดีด้วย Standard Account และจากการทดสอบ ผมพบว่าบัญชีนี้ทำผลงานได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมในหลายๆ ครั้ง

จากตาราง คุณจะเห็นว่า IC Markets ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการจ่ายคอมมิชชันของการเทรด ในขณะที่ยังคงรักษาค่าธรรมเนียมต่อการเทรดให้ต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดฟอเร็กซ์

ข้อดีของ IC Markets

• นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดชั้นนำ เช่น MetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader และ TradingView
• สเปรดต่ำ โดยเฉพาะคู่เงิน EUR/USD ที่มีค่าเฉลี่ยเพียง 0.19 pips
• Standard Account ที่มีประสิทธิภาพสูง
• เครื่องมือ Depth-of-Markets บน MetaTrader 5

ข้อเสียของ IC Markets

• ไม่สามารถเข้าถึง CFD หุ้น บน MetaTrader 4 ได้

8. Tickmill: ข้อเสนอตลาดการเงินหลากหลายประเภท

ภาพรวมของโบรกเกอร์ Tickmill

Tickmill ชื่อของโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือของอุตสาหกรรม Forex การันตีได้ถึงข้อเสนอที่ดีเยี่ยม ทั้งตลาดการเงินที่หลากหลาย และการเข้าถึงบัญชีการเทรดหลายรูปแบบ ทั้ง Raw และ บัญชี Classic (Standard) บนแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุด อย่างเช่น MetaTrader 4 และ MetaTrader 5

นอกจากนี้ Tickmill ยังเสนอสเปรดที่ค่อนข้างต่ำในบัญชี Raw โดยเฉพาะในคู่เงินที่เทรดบ่อยๆ ทั้ง EUR/USD และ AUD/USD และสิ่งที่ทำให้ Tickmill โดดเด่นในมุมมองของผม คือ บัญชี VIP ที่ให้ข้อเสนอการเทรด Forex ที่ยอดเยี่ยม

จากการทดสอบ ผมพบว่า สเปรดของบัญชี VIP ของ Tickmill ดีกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอย่างมาก ซึ่งคุณสามารถเห็นได้จากตารางนี้

สิ่งที่ควรพิจารณาอีกอย่างคือ ในบัญชี VIP จะมีการกำหนดค่าคอมมิชชันอยู่ที่ $1.00 ต่อด้าน และ $2.00 ต่อรอบการเทรด หากคุณเทรดในปริมาณสูง การที่คุณสามารถเข้าเกณฑ์สำหรับบัญชี VIP ได้จะทำให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด

โดยรวมแล้ว โบรกเกอร์รายนี้อาจจะไม่ได้มีฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยคุณในการเทรดมากมาย แต่ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่รองรับก็เป็นจุดเด่นที่ปฏิเสธได้ยาก ซึ่งคุณสามารถเทรดฟอเร็กซ์ได้ในจำนวน 62 คู่เงิน รวมถึงคู่เงินหลักและรอง และคู่เงินแปลกใหม่หลายคู่

ข้อดีของ Tickmill

• สามารถเทรดฟอเร็กซ์ได้มากถึง 62 คู่
• สเปรดและค่าคอมมิชชันที่ยอดเยี่ยมในบัญชี VIP
• รองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MetaTrader 5

ข้อเสียของ Tickmill

• ฟีเจอร์ของโบรกเกอร์ยังอยู่ในระดับพื้นฐาน
• CFD อื่นๆ ที่ไม่ใช่ฟอเร็กซ์ ยังมีจำนวนจำกัด

9. IUX: พอร์ทัลการศึกษาและเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม

ภาพรวมของโบรกเกอร์ IUX

IUX เสนอคู่เงินทั้งหมด 34 คู่ ซึ่งอาจจะมากเท่าไหร่นักหากเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ แต่ก็เพียงพอสำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม IUX ติดอันดับในรายการของผมจากสองเหตุผลหลักๆ ดังนี้

ประการที่หนึ่ง เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่ดีที่สุด ซึ่งโบรกเกอร์มีคำสั่งหยุดขาดทุนที่รับประกัน (GSLO) ที่ช่วยในการปกป้องการเทรดของคุณ โดยมันจะปิดตำแหน่งอัตโนมัติเมื่อขาดทุนเกินระดับที่ตั้งไว้ แต่ความผันผวนของตลาดและช่องว่างราคาก็ยังคงเป็นความเสี่ยงอยู่ หากตลาดตกต่ำกว่าระดับที่ตั้งไว้ก่อนที่โบรกเกอร์จะปิดคำสั่งนั้น คุณอาจเสียเงินไปโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้

GSLO จะช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อใช้ GSLO คำสั่งของคุณจะปิดเมื่อราคาเคลื่อนไปถึงระดับที่คุณตั้งไว้ ไม่ว่าในกรณีที่ตลาดจะผันผวนหรือมีปัญหาอื่นๆ โดยที่น่าสนใจคือ IUX เสนอให้บริการนี้ฟรี แตกต่างจากโบรกเกอร์อื่นในตลาด ที่มักจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ถ้าคำสั่ง GSLO ของคุณถูกดำเนินการ

ประการที่สอง พอร์ทัลด้านการศึกษาและการวิจัย โดยปกติแล้วการเรียนรู้การเทรดฟอเร็กซ์เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง ดังนั้นผมจึงเห็นว่า การที่โบรกเกอร์เสนอพอร์ทัลการศึกษาและมีเนื้อหาการวิจัยที่แข็งแกร่งนั้นเป็นจุดที่สำคัญอย่างมาก ซึ่ง IUX ทำส่วนนี้ได้ดีเยี่ยม ให้การเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นไปอย่างง่ายดาย

ผมสามารถเข้าถึงเนื้อหาการศึกษาและการวิจัยมากมายบนเว็บไซต์ได้ ซึ่งรวมถึง หลักสูตรการฝึกอบรมฟรี 8 โมดูล ที่เกี่ยวกับพื้นฐานของการลงทุน ทั้งที่โฮสต์บนแพลตฟอร์ม Vimeo รวมทั้งบนเว็บไซต์เองด้วย

นักลงทุนทั้งมีประสบการณ์และมือใหม่ จะได้รับประโยชน์จากเนื้อหาต่างๆ ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผลกระทบของ Open AI ต่อการเทรด และการเปรียบเทียบระหว่างการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นต้น

โดยรวมแล้ว ดูเหมือนว่า IUX จะให้ความสำคัญในการจัดทำพอร์ทัลการศึกษาที่ดีสำหรับสมาชิกของพวกเขาเป็นอย่างมาก

ข้อดีของ IUX

• พอร์ทัลการศึกษาและการวิจัยที่แข็งแกร่ง
• รองรับ MT5
• GSLO ฟรี (คำสั่งหยุดการขาดทุนที่รับประกันฟรี)

ข้อเสียของ IUX

• มีแพลตฟอร์มการเทรดเพียงตัวเดียว ให้เลือกใช้งาน
• ไม่มี ETF, ฟิวเจอร์ส, พันธบัตร หรือ ออปชัน สำหรับการเทรด

10. OANDA: ตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่หัดเทรด

ภาพรวมของโบรกเกอร์

ด้วยข้อเสนอฟอเร็กซ์จำนวน 68 คู่ ผมมองว่านี้เป็นปริมาณที่สูงมาก และมากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเสียอีก นอกจากนี้ OANDA ยังมีสินค้าโภคภัณฑ์อีกกว่า 12 รายการ 10 ที่ไม่มีให้เทรดในบางโบรกเกอร์

อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักที่ทำให้ผมเลือก OANDA สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่คือ โบรกเกอร์นี้ทำให้การเริ่มเทรดฟอเร็กซ์เป็นเรื่องง่ายมาก เนื่องจาก คุณสามารถเลือกใช้ OANDA Trade ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OANDA เองและคุณยังสามารถทำการเทรด โดยเริ่มจากหนึ่งหน่วยของสกุลเงินได้ด้วย

ในทางตรงกันข้าม แม้แต่ไมโครล็อตก็จะเท่ากับ 1,000 หน่วยของสกุลเงิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มที่ต่ำที่สุดจากโบรกเกอร์ทั้งหมดที่ผมได้ตรวจสอบ แต่การเทรดด้วยหนึ่งหน่วยของสกุลเงินก็เป็นข้อเสนอที่ดีกว่าที่คุณต้องเริ่มเทรดด้วยล็อตใหญ่ๆ อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ การใช้ คำสั่งหยุดการขาดทุนที่รับประกัน (GSLO) ก็เป็นข้อเสนอที่ดีสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ ทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงกับการขาดทุนในการเริ่มเทรดในช่วงแรกที่ยังขาดประสบการณ์

ข้อดีของ OANDA

• แพลตฟอร์มการเทรดของตัวเองที่ใช้งานได้ดี
• ขนาดการเทรดเริ่มที่ หนึ่งหน่วย
• ให้บริการ GSLOs (คำสั่งหยุดการขาดทุนที่รับประกัน)

ข้อเสียของ OANDA

• สเปรดยังสูงกว่าโบรกเกอร์อื่นๆ
• ไม่มี บัญชี ECN หรือ STP

การเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เชื่อถือได้สำหรับประเทศไทย

สิ่งแรกที่ผมอยากแนะนำเมื่อคุณต้องการเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ซึ่งน่าเชื่อถือได้ คุณควรมองหา ใบอนุญาตและควบคุมดูแล (Regulation) โดยหน่วยงานกำกับดูแลที่ได้มาตรฐาน แม้ว่าประเทศไทยจะไม่รองรับและไม่มีการควบคุมโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ CFD ด้วยตัวเอง แต่ก็มีองค์กรระหว่างประเทศหลายหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือและครอบคลุมลูกค้าในไทย

ใบอนุญาตระหว่างประเทศไม่ได้ให้การคุ้มครองเฉพาะเทรดเดอร์ชาวไทย แต่จะเป็นตัวบอกคุณว่าโบรกเกอร์นั้นน่าเขื่อถือและไว้วางใจได้มากเพียงใด โดยองค์กรกำกับดูแลระดับ Tier-1 เช่น ASIC ของออสเตรเลีย หรือ FCA ของสหราชอาณาจักร เป็นองค์กรที่มีข้อกำหนดที่เข้มงวด

หลังจากตรวจสอบการกำกับดูแลมและใบอนุญาตแล้ว คุณต้องพิจารณาเกี่ยวกับ เงื่อนไขการเทรด และว่ามันสอดคล้องกับกลยุทธ์ของคุณหรือไม่

ในกรณีรี้ ผมได้เลือก Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย เนื่องจากมันมีสเปรดต่ำตลอดเวลา และอาจจะต่ำถึง 0 pips ในคู่สกุลเงินบางคู่ (ตลอดทั้งวัน) และยังมีความเร็วในการประมวลผลที่รวดเร็ว และรองรับแพลตฟอร์มการเทรดชั้นนำ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี

โบรกเกอร์อื่นๆ ที่อยู่ในการจัดอันดับของผม ได้แก่ Eightcap ซึ่งมีคุณสมบัติด้านการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม รวมถึงมีสเปรดที่แข่งขันได้ และ Exness ที่มีขีดจำกัดของเลเวอเรจในปริมาณสูง

อย่างไรก็ตาม นอกจจากจะพิจารณาข้อมูลในรีวิวโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดของเราแล้ว ผม Justin Grossbard จาก CompareForexBrokers อยากขอแนะนำให้คุณทำการวิจัยเพิ่มเติมด้วยตัวเอง เพื่อเพิ่มข้อมูลประกอบการตัดสินใจเทรดของคุณให้ดีขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

ฉันสามารถทำการเทรดฟอเร็กซ์ในประเทศไทยได้ไหม?

ได้ แม้ว่าหน่วยงานไทยจะไม่ได้ควบคุมโบรกเกอร์ CFD Forex โดยตรง แต่คุณยังสามารถเข้าถึงโบรกเกอร์ Forex ที่เชื่อถือได้จากต่างประเทศในฐานะพลเมืองหรือผู้อาศัยในประเทศไทย

โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับประเทศไทยคืออะไร?

โบรกเกอร์ Pepperstone, Eightcap และ Exness เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ยอดเยี่ยมใน 3 อันดับแรก ที่ส่วนตัวของผมมองว่าเป็นโบรกเกอร์ CFD Forex ซึ่งน่าเชื่อถือที่สุด สำหรับประเทศไทย

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์นั้นน่าเชื่อถือและถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่?

คุณควรมองหาโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากองค์กรระดับ Tier-1 เช่น ASIC ของออสเตรเลีย, FCA ของสหราชอาณาจักร หรือ ESMA ของยุโรป ใบอนุญาตจากองค์กรเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าโบรกเกอร์นั้นเป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและถูกต้องตามกฎหมาย หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก คู่มือเทรดฟอเร็กซ์ ของเรา

ฉันสามารถทดลองเทรดฟอเร็กซ์ได้หรือไม่?

ได้ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่อนุญาตให้คุณทดลองเทรดฟอเร็กซ์ผ่านบัญชี demo account ซึ่งเป็นบัญชีที่คุณสามารถใช้เทรดด้วยเงินเสมือนจริง การใช้บัญชีทดลองนี้ช่วยให้คุณสามารถฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดของคุณ และเข้าใจวิธีการทำงานของแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินทุนจริง

ฉันสามารถเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ได้อย่างไรในฐานะมือใหม่?

สำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มเทรดฟอเร็กซ์ คุณสามารถเริ่มได้โดยการศึกษาเกี่ยวกับพื้นฐานของการเทรด เช่น การอ่านกราฟ, การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน และการจัดการความเสี่ยง นอกจากนี้ การใช้บัญชี demo เพื่อฝึกฝนก่อนที่คุณจะเริ่มเทรดด้วยเงินจริงจะช่วยมั่นใจในกลยุทธ์การเทรดของคุณมากยิ่งขึ้น