Hot Wallet คืออะไร? คู่มือใช้งานกระเป๋าคริปโตออนไลน์สำหรับมือใหม่

Hot Wallet คืออะไร? ทำไมถึงเหมาะสำหรับมือใหม่?

Hot Wallet คือกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ซึ่งถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บและทำธุรกรรมกับคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Bitcoin และ Ethereum ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

หลักการทำงานของ Hot Wallet

คุณสมบัติของ Hot Wallet คือทำงานผ่านการเชื่อมต่อกับเครือข่ายบล็อกเชนโดยตรง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับหรือส่งคริปโตเคอร์เรนซีได้อย่างง่ายดาย โดยใช้คู่คีย์ที่ประกอบด้วยคีย์สาธารณะ (Public Key) และคีย์ส่วนตัว (Private Key) ในการยืนยันและจัดการธุรกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ เนื่องจาก Hot Wallet Crypto มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา มันจึงเหมาะสำหรับการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นบ่อย เช่น การซื้อขาย หรือการโอนเงินแบบรวดเร็วระหว่างผู้ใช้งาน

Hot Wallet vs Cold Wallet: เลือกแบบไหนดี?

Hot Wallet ต่างจาก Cold Wallet ตรงที่ Cold Wallet ใช้งานโดยการจัดเก็บกุญแจส่วนตัว (Private Key) และกุญแจสาธารณะ (Public Key) ในอุปกรณ์ที่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น ฮาร์ดแวร์วอลเล็ท (Hardware Wallet) ซึ่งมีความสะดวกในการพกพา และเสี่ยงต่อการโดนแฮ็กหรือการโจมตีทางไซเบอร์น้อยกว่า Hot Wallet

Hot Wallet vs Cold Wallet

หากต้องการทำธุรกรรม ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเชื่อมต่อ Cold Wallet เข้ากับอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ในช่วงเวลานั้น แต่ในขณะไม่ได้ใช้งาน กุญแจส่วนตัวจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยภายในอุปกรณ์ Cold Wallet นั่นเอง

เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างกระเป๋า 2 ชนิดได้ง่ายขึ้น เราได้ทำตารางเปรียบเทียบ Hot Wallet vs Cold Wallet มาให้แล้ว ดังนี้:

คุณสมบัติ Hot Wallet (กระเป๋าเงินร้อน) Cold Wallet (กระเป๋าเงินเย็น)
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
ความสะดวกในการใช้งาน ใช้งานง่ายและสะดวก สามารถทำธุรกรรมได้ทันที ใช้งานยากกว่า เนื่องจากต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นในการทำธุรกรรม
ความปลอดภัย มีความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กหรือโจรกรรมข้อมูลมากกว่า ปลอดภัยกว่า เพราะไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
การเข้าถึง สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ต้องเข้าถึงจากอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลโดยตรงเท่านั้น
ตัวอย่างรูปแบบ กระเป๋าเงินในแอปมือถือ, กระเป๋าเงินบนเว็บ ฮาร์ดแวร์วอลเล็ท, กระเป๋าแบบกระดาษ, กระเป๋าเหล็ก
ราคา มักใช้งานได้ฟรีหรือราคาถูก มักมีต้นทุนสูง เนื่องจากต้องซื้ออุปกรณ์พิเศษ (หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น)
การกู้คืนข้อมูล สามารถกู้คืนได้ง่ายกว่าหากข้อมูลหาย ต้องใช้กระบวนการฟื้นฟูที่ซับซ้อนและใช้ข้อมูลสำรอง
เหมาะสำหรับผู้ค้า เหมาะสำหรับนักเทรดที่ทำธุรกรรมบ่อยและต้องการความสะดวก เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการความปลอดภัยสูง

เหตุผลที่ Hot Wallet เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่

Hot Wallet มีคุณสมบัติหลายประการที่ทำให้เหมาะสมสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกคริปโตเคอร์เรนซี ได้แก่:

  • ความสะดวกในการเข้าใช้งาน: ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งาน Hot Wallet ได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • การใช้งานที่เรียบง่าย: Hot Wallet ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับมือใหม่ ด้วยอินเทอร์เฟซที่ไม่ซับซ้อน ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะทางเทคนิคสูง
  • เหมาะสำหรับการทดลองเรียนรู้: สำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี การเริ่มต้นใช้งาน Hot Wallet เป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้และทดลองทำธุรกรรม ก่อนที่จะขยับไปใช้ Cold Wallet ซึ่งมีความปลอดภัยสูงกว่า แต่ก็มีความซับซ้อนในการใช้งานมากกว่า
  • ใช้งานได้ฟรี/ราคาถูก: สำหรับผู้ที่อยากรู้ว่า hot wallet คิดค่าบริการไหม ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะ hot wallet มักจะไม่เสียค่าบริการเหมือนกับ cold wallet เนื่องจาก cold wallet เป็นอุปกรณ์พิเศษที่ต้องสั่งซื้อเพิ่มเติม ในขณะที่ถ้าคุณมีโทรศัพท์ แล็บท็อป หรือคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว คุณสามารถใช้งาน hot wallet ได้ทันที

ข้อควรระวังในการใช้งาน Hot Wallet

แม้ว่าความสะดวกจะเป็นจุดเด่นของ Hot Wallet แต่การใช้งานก็มีความเสี่ยงที่ควรระมัดระวัง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก เนื่องจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ผู้ใช้งานควรหลีกเลี่ยงการเก็บเงินจำนวนมากไว้ใน Hot Wallet และใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง และการเปิดใช้งาน TwoFactor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

ดังนั้นสรุปได้ว่า Hot Wallet เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวันและการเรียนรู้เบื้องต้นสำหรับมือใหม่ แต่ควรใช้งานอย่างระมัดระวังและจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ

คุณสมบัติของ Hot Wallet ที่มือใหม่ต้องรู้

คุณสมบัติของ Hot Wallet

คุณสมบัติของ hot wallet มีอะไรบ้าง ทำไมจึงเหมาะกับมือใหม่และผู้ที่ทำธุรกรรมบ่อยมากกว่า Cold Wallet ไปดูกัน:

  • การเข้าถึงที่ง่ายดาย

Hot Wallets สามารถเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา เปรียบเสมือนการพกเงินสดติดตัวอยู่ตลอด

  • ธุรกรรมแบบเรียลไทม์

Hot Wallets ช่วยให้การส่งและรับ cryptocurrencies ดำเนินการได้รวดเร็วทันใจ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการความเร็ว เช่น การซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนที่การทำธุรกรรมทันทีอาจส่งผลต่อกำไรขาดทุน

  • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

Hot Wallets ส่วนใหญ่มาพร้อมกับการออกแบบที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้สะดวก นอกจากนี้ยังมักจะมีคู่มือหรือฟังก์ชันช่วยเหลือในตัวเพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น

  • รองรับสกุลเงินดิจิทัลหลากหลาย

หนึ่งในจุดเด่นของ Hot Wallets คือการรองรับ cryptocurrencies ได้หลากหลายสกุล ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลหลายประเภทได้ในกระเป๋าเดียว

  • ฟีเจอร์การแลกเปลี่ยนในตัว

Hot Wallets บางประเภทมีฟังก์ชันการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน cryptocurrencies ที่ฝังมาในตัวกระเป๋า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้ทันทีโดยไม่ต้องโอนเงินไปยังแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนภายนอก

  • บันทึกประวัติธุรกรรม

Hot Wallets มีระบบเก็บบันทึกรายละเอียดธุรกรรม เช่น วันที่ จำนวนเงิน และที่อยู่กระเป๋าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามการเคลื่อนไหวทางการเงินของตนเองได้อย่างง่ายดาย

  • ฟังก์ชัน QR Code

Hot Wallets หลายแบบรองรับการใช้งาน QR Code สำหรับที่อยู่กระเป๋าเงิน ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการกรอกข้อมูลด้วยมือ ทำให้การส่งและรับเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น

  • มาตรการรักษาความปลอดภัย

แม้ว่า Hot Wallets จะมีความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เนื่องจากการเชื่อมต่อออนไลน์ แต่หลายกระเป๋าก็ได้เพิ่มมาตรการป้องกัน เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การใช้งาน TwoFactor Authentication (2FA) และการสนับสนุน MultiSignature เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

  • การจัดการ Private Key และ Public Key

Hot Wallets สร้างและเก็บทั้ง Private Key และ Public Key โดย Public Key ใช้สำหรับรับเงินจากผู้อื่น ในขณะที่ Private Key ต้องเก็บเป็นความลับอย่างเคร่งครัดเนื่องจากเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงสินทรัพย์ในกระเป๋า

  • ความสะดวกสำหรับการทำธุรกรรมบ่อยครั้ง

Hot Wallets เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำธุรกรรม cryptocurrencies เป็นประจำ เนื่องจากมีความสะดวกและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน เมื่อเทียบกับ Cold Wallets ที่เหมาะกับการเก็บสินทรัพย์ระยะยาว

สรุปแล้ว Hot Wallets เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการจัดการ cryptocurrency ในชีวิตประจำวัน ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมรวดเร็วและสะดวก อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรตระหนักถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการเก็บสินทรัพย์ในรูปแบบออนไลน์และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเหมาะสม

เยี่ยมชม BestWallet ทันที

วิธีใช้งาน Hot Wallet อย่างปลอดภัยสำหรับมือใหม่: สิ่งที่คุณควรรู้และวิธีป้องกันความเสี่ยง

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นในโลกของคริปโต การใช้งานกระเป๋าเงินร้อนถือเป็นทางเลือกที่สะดวก เนื่องจากกระเป๋าประเภทนี้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ทำให้การทำธุรกรรมเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความสะดวกนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องระวังเช่นกัน ดังนั้น เพื่อช่วยคุณปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัล นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยที่สำคัญ:

  • เก็บสินทรัพย์จำนวนเล็กน้อยใน Hot Wallet

แนะนำให้เก็บเหรียญคริปโตใน Hot Wallet เพียงเล็กน้อยและเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้เท่านั้น แต่ให้ใช้ Cold Wallet สำหรับการจัดเก็บสินทรัพย์ส่วนใหญ่ในระยะยาว วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์

  • อัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

หมั่นตรวจสอบและอัปเดตซอฟต์แวร์ของกระเป๋าเงินให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นจากซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดต

  • เข้ารหัสข้อมูลเพื่อป้องกันความปลอดภัย

การใช้การเข้ารหัส (Encryption) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องข้อมูลสำคัญ เช่น กุญแจส่วนตัว (Private Key) และข้อมูลส่วนตัวของคุณ

  • เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA)

เปิดใช้งานระบบ 2FA หรือ Two-Factor Authentication สำหรับการเข้าถึงบัญชีแลกเปลี่ยนและกระเป๋าเงินของคุณ ซึ่งจะช่วยเพิ่มเลเยอร์ความปลอดภัยในการทำธุรกรรมได้อย่างมาก

  • หลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อฟิชชิง (Phishing)

อย่าคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบจากอีเมลหรือข้อความที่ไม่รู้จักหรือดูน่าสงสัย เพราะอาจเป็นกลลวงฟิชชิงที่มุ่งขโมยข้อมูลส่วนตัวและเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณ

  • ตรวจสอบธุรกรรมและบัญชีของคุณเป็นประจำ

การตรวจสอบประวัติธุรกรรมอย่างสม่ำเสมอช่วยให้คุณสามารถสังเกตเห็นกิจกรรมที่ผิดปกติได้ทันที หากพบความผิดปกติ ควรรายงานและดำเนินการแก้ไขทันที

  • ถอนคริปโตออกจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน

เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ควรโอนคริปโตจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนไปยังกระเป๋าเงินที่มีความปลอดภัยมากกว่า เช่น Cold Wallet

สรุปได้ว่าแม้ว่า Hot Wallet จะมีจุดเด่นในเรื่องความสะดวกสบาย แต่ผู้ใช้งานควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นจะช่วยลดโอกาสการสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เก็บรักษา Seed Phrase หรือ Secret Recovery Phrase ให้ปลอดภัย

รหัสนี้คือกุญแจสำคัญสำหรับการกู้คืนกระเป๋าเงิน หากรหัสนี้สูญหาย ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินของตนได้อีกเลย ดังนั้นควรทำตามคำแนะนำต่อไปนี้:

  • หลีกเลี่ยงการจัดเก็บออนไลน์: อย่าบันทึก Seed Phrase บนอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
  • จดบันทึกลงบนกระดาษ: เขียน Seed Phrase ลงบนกระดาษและจัดเก็บในสถานที่ที่ปลอดภัย เช่น ตู้เซฟ
  • จัดทำสำรองหลายชุด: สร้างสำเนา Seed Phrase หลายชุดและจัดเก็บไว้ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน เพื่อป้องกันการสูญหายหรือความเสียหาย
  • ใช้วัสดุที่มีความทนทาน: วัสดุควรป้องกันไฟหรือความชื้น เช่น แผ่นโลหะ
  • ระมัดระวังการฟิชชิง: อย่าเปิดเผย Seed Phrase ให้ผู้อื่นทราบไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จำไว้ว่าไม่มีใครควรขอข้อมูลนี้จากคุณ
  • ใช้วิธี Shamir Backup: เป็นการแบ่ง Seed Phrase ออกเป็นส่วนย่อย ๆ หลายส่วน หากส่วนใดส่วนหนึ่งสูญหาย คุณยังสามารถกู้คืนข้อมูลได้จากส่วนที่เหลือ

แนะนำ Hot Wallet ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ไทย

จริงๆ แล้วกระเป๋าแบบร้อนเป็นตัวเลือกที่นิยมในไทยมานาน และมีผู้ให้บริการมากมาย เราจะมาดูกันว่าในประเทศไทย hot wallet มีอะไรบ้างที่น่าใช้และคุณควรรู้จัก รวมถึงคุณสมบัติของ hot wallet ที่น่าสนใจ

Best Wallet

Best Wallet เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานในด้านความปลอดภัยสำหรับการจัดเก็บและทำธุรกรรมในโลกของคริปโต รองรับการใช้งานบล็อกเชนมากกว่า 100 เครือข่าย และครอบคลุมถึงคริปโตมากกว่า 250,000 สกุล ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการ Swap โทเค็นข้ามเครือข่าย หรือการซื้อขายผ่านบริการ OTC ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย

Best Wallet

Best Wallet มาพร้อมฟีเจอร์ที่ทันสมัยมากมาย เช่น  InstantGas Swap ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นได้ง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องถือโทเค็นดั้งเดิมไว้ล่วงหน้า หรือ ฟีเจอร์ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการอนุญาตที่เกินความจำเป็นใน DApp เป็นต้น

ด้วยการพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็ง Best Wallet สามารถปรับปรุงและพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง มีการวางแผนเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ รวมถึงแคมเปญที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานรายใหม่อย่างต่อเนื่อง

อินเทอร์เฟซของแพลตฟอร์มถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย อีกทั้งในด้านศักยภาพของโทเค็น BEST มีการคาดการณ์ว่าอาจเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต โดยมีการประเมินว่ามูลค่าโทเค็นอาจเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่าภายในปี 2030 การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของแพลตฟอร์มนี้ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนในระยะยาว

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ Best Wallet จึงถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทยที่ต้องการเข้าสู่โลกของคริปโตเคอร์เรนซีอย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อดี:

  • รองรับหลายเครือข่าย: สนับสนุนมากกว่า 100 เครือข่ายบล็อกเชน และมีความสามารถในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 250,000 สกุลเงินดิจิทัล ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการดูแลสินทรัพย์ที่หลากหลาย
  • ฟีเจอร์ขั้นสูง: มาพร้อมฟีเจอร์อย่าง InstantGas Swap ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับโทเคนระหว่างเครือข่ายได้โดยไม่จำเป็นต้องถือโทเคนพื้นฐาน ช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการใช้งาน
  • ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง: มีระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง เช่น การจัดการสิทธิ์สำหรับการใช้งาน DApp เพื่อลดความเสี่ยงจากการอนุญาตที่ไม่จำเป็นหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟสใช้งานง่าย เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่และมือโปร

ข้อเสีย:

  • แพลตฟอร์มใหม่: แม้ว่ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ใหม่เมื่อเทียบกับกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ระบบนิเวศและการสนับสนุนจากชุมชนยังไม่กว้างขวางหรือแข็งแกร่งเท่าที่ควร

Trust Wallet

Trust Wallet ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งานชาวไทย และมีผู้ใช้งานทั่วโลกรวมกว่า 140 ล้านราย เนื่องมาจากอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

Trust Wallet

และความสามารถในการรองรับสกุลเงินดิจิทัลหลากหลายประเภท นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ได้อย่างราบรื่น สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย กระเป๋านี้มักถูกเลือกเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล

ข้อดี:

  • ใช้งานง่าย: Trust Wallet โดดเด่นด้วยอินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ทำให้ทั้งผู้ใช้งานมือใหม่และผู้มีประสบการณ์สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น
  • รองรับสินทรัพย์หลากหลาย: กระเป๋าเงินดิจิทัลนี้รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,600 สกุล รวมถึงสกุลเงินยอดนิยมอย่าง Bitcoin, Ethereum, และ Binance Coin พร้อมทั้งโทเค็นอีกมากมายบนเครือข่ายหลากหลาย
  • รองรับ DApps: รองรับการใช้งานร่วมกับ Decentralized Applications (DApps) ได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงฟีเจอร์การ Stake โทเค็น ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่ม DeFi

ข้อเสีย:

  • คุณสมบัติขั้นสูงมีจำกัด: แม้ว่า Trust Wallet จะตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้ดี แต่ยังขาดฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างที่กระเป๋าเงินเฉพาะทางอย่าง Best Wallet มีให้ เช่น การแนะนำเหรียญ presales ใหม่ๆ เป็นต้น

Binance Wallet

ด้วยความที่ Binance เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก กระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องอย่าง Binance Wallet หรือ Binance Chain Wallet จึงได้รับความนิยมในไทยเช่นกัน

Binance Wallet

โดยเฉพาะในกลุ่มนักเทรดที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการซื้อขายและแลกเปลี่ยนคริปโต ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อว่าค่าธรรมเนียมต่ำ

ข้อดี:

  • การเชื่อมต่อกับ Binance Exchange: กระเป๋าเงินนี้ผสานการทำงานกับ Binance Exchange ได้อย่างครบวงจร ทำให้การโอนเงินระหว่างกระเป๋าเงินและบัญชีใน Exchange เป็นไปได้อย่างง่ายดาย
  • รองรับสินทรัพย์แบบครอบคลุม: รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 400 รายการ รวมถึงเหรียญและโทเคนหลักทั้งหมด พร้อมทั้งสามารถเข้าถึงระบบนิเวศของ Binance ได้อย่างสะดวก
  • บริการ OTC: กระเป๋าเงินนี้มีบริการ Over-The-Counter (OTC) สำหรับการทำธุรกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับผู้ซื้อขายในปริมาณมาก

ข้อเสีย:

  • ระบบรวมศูนย์: เนื่องจากกระเป๋าเงินนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของ Binance จึงมีลักษณะรวมศูนย์ (Centralized) ซึ่งอาจเป็นข้อกังวลสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการควบคุมและความเป็นส่วนตัวในสินทรัพย์ของตนอย่างเต็มที่

MetaMask

MetaMask เป็นอีกหนึ่งกระเป๋าเงินที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย

MetaMask

โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) และบริการ DeFi ความสามารถของ MetaMask ในการเชื่อมต่อกับ Ethereum และเครือข่ายอื่น ๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลบน Ethereum

ข้อดี:

  • โฟกัสที่ Ethereum และ ERC20 Token: MetaMask ถือเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยมที่ได้รับความไว้วางใจในกลุ่มผู้ใช้งาน Ethereum และโทเคนประเภท ERC20 เนื่องจากรองรับทั้งโทเคนและ DApp จำนวนมากในระบบนิเวศของ Ethereum
  • รองรับการใช้งานกับ DApp ได้ดี: ด้วยความเข้ากันได้สูงกับ DeFi protocols และแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Applications) ทำให้ MetaMask เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่ใช้งานในวงการ DeFi
  • จัดการ NFT ได้ง่าย: MetaMask ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการ NFT บนเครือข่าย Ethereum ได้สะดวก พร้อมรองรับการเชื่อมต่อและใช้งานกับแพลตฟอร์ม NFT ต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อ

ข้อเสีย:

  • การรองรับบล็อกเชนอื่นมีจำกัด: แม้จะทำงานได้ดีเยี่ยมกับสินทรัพย์ที่อยู่บน Ethereum แต่ MetaMask ยังมีข้อจำกัดในด้านการรองรับบล็อกเชนอื่น ๆ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดการสินทรัพย์บนหลายเครือข่าย อย่างไรก็ตาม MetaMask รองรับการเชื่อมต่อกับบล็อกเชนอื่น ๆ ผ่านการเพิ่ม Custom RPC (Remote Procedure Call) หรือการติดตั้งเครือข่ายที่รองรับในตัวเองได้ แต่อาจจะยุ่งยากเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์ม Multi-chain อื่น ๆ

Coinbase Wallet

Coinbase Wallet ได้รับความนิยมไม่น้อยในกลุ่มผู้ใช้งานชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากชื่อเสียงของ Coinbase ในฐานะแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับระดับโลก

Coinbase Wallet

อย่างไรก็ตาม ความนิยมของ Coinbase Wallet ในประเทศไทยยังถือว่าอยู่ในระดับรองลงมาเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกกระเป๋าเงินคริปโตอื่น ๆ ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้ใช้งานชาวไทยจำนวนไม่น้อยมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้กระเป๋าเงินที่ตอบโจทย์เฉพาะในประเทศมากกว่า หรือกระเป๋าเงินที่สามารถรองรับโทเคนได้หลากหลายยิ่งขึ้น

ข้อดี:

  • เชื่อมต่อกับ Coinbase ได้อย่างไร้รอยต่อ: เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ใช้งาน Coinbase อยู่แล้ว เนื่องจากสามารถเข้าถึงบัญชี Coinbase ได้โดยตรง และยังรองรับการโอนเงินได้อย่างสะดวกสบาย
  • อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย: การออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายของ Coinbase Wallet ช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถจัดการสินทรัพย์ของตัวเองได้โดยไม่รู้สึกซับซ้อน
  • รองรับสกุลเงินดิจิทัลหลากหลาย: รองรับสกุลเงินดิจิทัลกว่า 500 รายการ รวมถึงสินทรัพย์ยอดนิยมอย่าง Bitcoin, Ethereum และ Litecoin พร้อมทั้งโทเค็น ERC20 อีกมากมาย

ข้อเสีย:

  • ฟีเจอร์ขั้นสูงค่อนข้างจำกัด: เมื่อเปรียบเทียบกับกระเป๋าเงินอย่าง MetaMask หรือ Trust Wallet แล้ว Coinbase Wallet ยังมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์ขั้นสูงอยู่บ้าง จึงอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากประสบการณ์นัก เช่น ด้านการรองรับ DeFi และ DApp ที่ซับซ้อนมากขึ้น

ตารางเปรียบเทียบ Hot Wallet ยอดนิยมในไทย:

ชื่อ Hot Wallet รูปแบบแพลตฟอร์ม ระบบปฏิบัติการ ฟีเจอร์เด่น ความปลอดภัย เหมาะสำหรับ รองรับภาษาไทย ฝ่ายบริการลูกค้า
Best Wallet Mobile / Desktop App Windows, macOS, Linux, Android, iOS รองรับหลายเหรียญ, ใช้งานง่าย, รองรับการส่งเหรียญหลายชนิดและการเชื่อมต่อกับ DApp Private Keys ถูกเก็บในอุปกรณ์ของผู้ใช้, การเข้ารหัส AES ผู้ใช้ที่ต้องการกระเป๋าหลายเหรียญและใช้งานง่าย ใช่ 24 ชม. ทาง Live Chat, Email, FAQ, Social Media (Facebook, Twitter)
Trust Wallet Mobile App Android, iOS รองรับหลากหลายเหรียญ, ง่ายต่อการใช้งาน, รองรับ DApp Browser, NFT การเข้ารหัส AES, private keys อยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ มือใหม่, ผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ใช่ 24 ชม. ทาง Email, FAQ, Community (Telegram, Reddit)
Binance Wallet Mobile / Desktop App Android, iOS, Web เชื่อมโยงกับ Binance Exchange, รองรับการเทรดใน Binance, รองรับ DeFi, OTC services การเข้ารหัส AES, private keys อยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ผู้ที่ใช้งาน Binance Exchange และต้องการสะดวกในการเทรด ใช่ 24 ชม. ทาง Live Chat, Email, Help Center, Social Media (Twitter, Facebook)
MetaMask Web Extension / Mobile App Windows, macOS, Linux, Android, iOS เชื่อมต่อกับ dApps, DeFi, NFT, Browser Extension, Mobile Support Private Key ถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้, มีการรองรับการเข้ารหัส ผู้ใช้ DeFi, NFT, ธุรกรรม ETH/ERC-20 ไม่ 24 ชม. ทาง Email, Help Center, Community (Discord, Reddit)
Coinbase Wallet Mobile App / Browser Extension Android, iOS, Web รองรับการเชื่อมโยงกับบัญชี Coinbase, รองรับการซื้อขายและการจัดการ NFT การเข้ารหัส AES, private keys อยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อกับบัญชี Coinbase และจัดการ NFT ใช่ 24 ชม. ทาง Live Chat, Email, Help Center

Hot Wallet คิดค่าบริการไหม อย่างไร?

นอกเหนือไปจากคุณสมบัติแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอน-โอน อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า hot wallet มักจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดหรือติดตั้ง อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมแฝงระหว่างใช้งานอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเราได้ทำตารางเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมคร่าวๆ มาให้แล้ว ดังนี้:

กระเป๋าเงิน ค่าธรรมเนียมการฝากเงิน ค่าธรรมเนียมการถอน ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน
Best Wallet ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก (ฟรี) ขึ้นอยู่กับเครือข่าย (Network Fees) ประมาณ 0.0001–0.01 BTC (ขึ้นอยู่กับเหรียญ) ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนข้ามเครือข่าย (Swap fees) 0.1–1%
Trust Wallet ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก (ฟรี) ขึ้นอยู่กับเครือข่าย (Network Fees) ประมาณ 0.0001–0.01 BTC (ขึ้นอยู่กับเหรียญ) ขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยน DEX, ค่าเฉลี่ย 0.1%–1% ขึ้นอยู่กับโปรโตคอลที่ใช้
Binance ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก (ฟรี) ขึ้นอยู่กับเหรียญที่ถอน (Network Fees) 0.0005–0.1 BTC (ขึ้นอยู่กับเหรียญ) 0.1%–0.04% (ขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อขายและระดับบัญชี)
MetaMask ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก (ฟรี) ขึ้นอยู่กับเครือข่าย (Network Fees) ประมาณ 0.0001–0.01 ETH หรือ 1–50 Gwei (ขึ้นอยู่กับเหรียญ) ขึ้นอยู่กับ DEX ที่เชื่อมต่อ เช่น Uniswap มีค่าธรรมเนียม 0.3%(สำหรับผู้ใช้ทั่วไป)
Coinbase ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก (ฟรี) ค่าธรรมเนียมการถอน (ขึ้นอยู่กับวิธีการถอน): 0.0005–0.01 BTC (ถอนไปกระเป๋าคริปโต) หรือ $0.25–$25 (ถอนไปบัญชีธนาคาร) 0.5%–1.49% ขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงินและปริมาณการซื้อขาย

บทสรุป

Hot Wallet หมายถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้งานในการเก็บรักษาและจัดการเหรียญคริปโตได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แม้ว่าการใช้งานจะง่ายและตอบโจทย์คนยุคใหม่ แต่ก็มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์อยู่ไม่น้อย ดังนั้น การเลือก Hot Wallet ที่มีระบบความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

การเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสม ควรพิจารณาคุณสมบัติด้านความปลอดภัย เช่น การใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสเพื่อป้องกันข้อมูล หรือการจัดเก็บคีย์ส่วนตัว (Private Key) ไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้เอง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย Hot Wallet crypto ที่ได้รับความนิยมก็มีมากมาย เช่น Best Wallet, Trust Wallet, Binance Wallet เป็นต้น โดยกระเป๋าเหล่านี้มีจุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์การใช้งานครบถ้วน และสามารถรองรับการทำธุรกรรมในหลากหลายเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำถามที่พบบ่อย

Hot Wallet คืออะไร?

Hot Wallet หมายถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บและบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย

Hot Wallet มีอะไรบ้าง?

ตัวอย่างของแพลตฟอร์ม Hot Wallet ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ MetaMask, Trust Wallet, Binance Wallet, Coinbase Wallet และ Best Wallet ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มนี้มีฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้งานที่หลากหลาย

Hot Wallet คิดค่าบริการไหม?

ปกติแล้วการใช้งาน Hot Wallet มักจะไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมบนเครือข่าย เช่น ค่าธรรมเนียม Gas บน Ethereum หรือค่าธรรมเนียมการโอนเหรียญในเครือข่ายอื่น ๆ ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวขึ้นอยู่กับสภาพเครือข่ายและความแออัดในการทำธุรกรรม

Hot Wallet ที่ดีที่สุด?

จริง ๆ แล้วการจะเลือกกระเป๋าเงินที่เหมาะกับตัวเองนั้น ขึ้นอยู่กับการใข้งานของแต่ละคน ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าวอลเลทไหนดีที่สุด ทั้งนี้สำหรับเราแล้ว เราขอแนะนำ Best Wallet เนื่องจากเป็นกระเป๋าที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องทำการ KYC ให้ยุ่งยาก มีความปลอดภัยสูง มีฟีเจอร์ที่ทันสมัย และมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด