นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการเข้าซื้อ Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์จำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ จะส่งผลให้ Market Cap ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดย ChainCatcher รายงานว่า การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ประมาณ 19 พันล้านดอลลาร์ จะมาจาก Demand Shock และผลกระทบจากการจำกัด Supply
ทำไม Bitcoin ถึงตอบสนองต่อ Demand Shock รุนแรง?
Tischhauser กล่าวว่าการไหลเข้าของเงินทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ในรอบแรกและรอบที่สอง จะดูดซับ Demand ที่มีอยู่เป็นหลัก แต่ในรอบที่สามและสี่ จะเผชิญกับสภาวะ Supply ที่ตึงตัวมากขึ้น ซึ่งจะเร่งการเพิ่มขึ้นของราคา นอกจากนี้ Net Demand จากแหล่งต่างๆ รวมถึงรัฐบาลที่ต้องการสินทรัพย์สำรอง นักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ และกิจกรรม Treasury ขององค์กรต่างๆ อาจเป็นตัวขับเคลื่อนผลกระทบนี้
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Bitcoin ไวต่อ Demand Shock คือปริมาณ Liquidity ที่จำกัด เมื่อมีความต้องการใหม่เกิดขึ้น จะส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การที่ Supply Bitcoin มีจำกัดอยู่แค่ 21 ล้านเหรียญ ทำให้เมื่อ Demand เพิ่มขึ้น ราคาจึงมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นโยบาย Bitcoin ของ Trump: จุดเปลี่ยนเกม?
เป็นที่น่าสังเกตว่า Trump ได้จัดตั้งคณะทำงานประธานาธิบดีด้านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Market Presidential Working Group) ในสัปดาห์แรกของการดำรงตำแหน่ง โดยมีภารกิจหนึ่งคือการประเมินความเป็นไปได้ของ Bitcoin Reserve เชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ หากสหรัฐฯ ตัดสินใจที่จะสะสม Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง ก็อาจเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ Demand เพิ่มขึ้นอย่างมาก และส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นไปอีก
หากสหรัฐฯ หรือประเทศอื่นๆ เริ่มสะสม Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาด Cryptocurrency และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับ Bitcoin ในระดับสากล
รัฐต่างๆ แห่สะสม Bitcoin: โอกาสทองของนักลงทุน?
นอกจากนี้ ยังมีรัฐต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาที่กำลังพิจารณาที่จะสะสม Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง ตัวอย่างเช่น Texas ได้มีการเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin Reserve ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน Bitcoin ในระดับรัฐ
การที่รัฐต่างๆ หันมาสนใจ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นใน Bitcoin ในฐานะ Store of Value และอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเติบโตของ Bitcoin ในระยะยาว
บทสรุป
การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าการเข้าซื้อ Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์จำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ สามารถกระตุ้น Market Cap ของ Bitcoin ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับแรงหนุนจาก Demand Shock และ Supply ที่จำกัด นโยบายของ Trump และความสนใจของรัฐต่างๆ ในการสะสม Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา Bitcoin ในอนาคต